แต่เสียดายที่ความรู้สึกเยี่ยงนี้ ผู้อื่นยากยิ่งจะเข้าใจได้ตลอดกาล
บางทีเนื่องเพราะมันอาจจะเข้าใจได้ ดังนั้นจึงยิ่งมีคุณค่าสูงส่งยิ่งน่าทะนุถนอม”
(ฤทธิ์มีดสั้น 2 : 494)
ครั้งแรกที่ลี้คิมฮวงกับก๊วยซงเอี้ยงต้องเผชิญหน้ากัน
ก๊วยซงเอี้ยงนับเป็นมือกระบี่ที่เล้งโซ่วฮุ้นนำตัวมาเพื่อกำจัดลี้คิมฮวงโดยเฉพาะ
แรกที่พบหน้ากัน ทั้งสองคือศัตรูคู่แค้นกัน มีแต่จะต้องประลองฝีมือกัน ต่อสู้เอาชัยเหนืออีกฝ่ายให้ได้
ก๊วยซงเอี้ยงเมื่อพบหน้าลี้คิมฮวง สิ่งที่มันยืนยัน
“ตราบใดที่เราสองยังไม่พิสูจน์ความสูงต่ำให้กระจ่างชัด ตราบนั้นข้าพเจ้าไม่อาจสุขสงบใจได้”
แม้ลี้คิมฮวงจะยืนยัน “วันนี้... ข้าพเจ้าไม่อาจประมือกับท่าน” เนื่องเพราะท่านทราบ- ก๊วยซงเอี้ยงนับเป็นยอดฝีมือที่ยากยิ่งจะสามารถเอาชัยได้
ลี้คิมฮวงกลัวตายใช่หรือไม่?
ลี้คิมฮวงมิได้เกรงกลัวต่อความตาย แท้จริงแล้วท่านกลับมีความรู้สึก“ตายแล้วจะเป็นไรไป”
แต่เนื่องเพราะท่านเห็น ท่านยังมีสิ่งที่ท่านจักต้องกระทำ ท่านจึงมิอาจตายอย่างยิ่ง และเรื่องที่ท่านพึงกระทำนั้นมิใช่เป็นการกระทำเพื่อตนเอง กลับเป็นการกระทำเพื่อคนที่ตนรักและเป็นการกระทำเพื่อสหาย
ท่านเพียงคิด-ลิ่มซีอิมยังคงต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองจากท่าน แม้กระทั่งอาฮุยเองก็ยังคงต้องการความช่วยเหลือจากท่าน
เยี่ยงนี้, คำที่มิอาจเปล่งออกจากปากของ “จอมยุทธ์” ท่านกลับสามารถเปล่งออกมาได้
“ข้าพเจ้ายอมแพ้”
เพียงคำนี้,นับว่าสามารถสร้างความรู้สึกประการหนึ่งขึ้นในสำนึกของก้วยซงเอี้ยงเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสำนึกของก๊วยซงเอี้ยงมาก่อน
ก๊วยซงเอี้ยงที่ไม่เคยมีคำ “สหาย” อยู่ในใจมาก่อน
ก๊วยซงเอี้ยงรู้สึก เยี่ยงนี้จึงสมควรนับเป็นวีรบุรุษที่แท้จริง
“ท่านว่าท่านยอมแพ้ใช่หรือไม่...? แต่ข้าพเจ้ากลับทราบ คนคนหนึ่งเมือถึงคราจะเอ่ยคำยอมแพ้ จะต้องใช้ความกล้าหาญยิ่งใหญ่เพียงใด คำพูดประโยคนี้ข้าพเจ้าแม้ตายก็ไม่ยอมเปล่งออกจากปากเป็นอันขาด”
“แต่ความตายกลับง่ายดายมาก ยินยอมเห็นแก่คนอื่นจนมาเอ่ยปากยอมแพ้ ยินยอมกล้ำกลืนความคับแค้นลำเค็ญไว้ นี่จึงเป็นวีรบุรุษที่แท้จริง เป็นชายชาตรีที่แท้จริง”
(ฤทธิ์มีดสั้น 2 : 491-492)
สำหรับลี้คิมฮวง, จิตใจของท่านตอนนี้นับว่าตื้นตันยิ่ง
สหายที่รู้ใจสหายนับว่าประเสริฐยิ่งแล้ว
ศัตรูที่สามารถรู้ในศัตรูยิ่งน่าปลาบปลื้มตื้นตันเยี่ยงไร?
“สหายที่พึ่งพาได้ที่สุดคนหนึ่ง มักจะเป็นศัตรูที่น่ากลัวของท่านได้ก็จริง แต่ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัว ก็มักจะกลายเป็นสหายที่รู้ใจที่สุดของท่านได้เช่นกัน
เนื่องเพราะผู้มีศักดิ์ศรีเป็นคู่มือของท่าน จึงมีศักดิ์ศรีเป็นคนรู้ใจของท่านเป็นสหายรักของท่าน!
เนื่องเพราะมีแต่คนประเภทนี้เท่านั้นจึงสามารถเข้าใจท่าน!”
(ฤทธิ์มีดสั้น 2 : 492)
ก๊วยซงเอี้ยงเพียงเข้าใจเยี่ยงนี้ ดังนั้นเมื่อลี้คิมฮวงขอเลื่อนวันประลองให้เป็นภายหลังจากที่ท่านเสร็จสิ้นเรื่องที่ท่านคิดกระทำและพึงกระทำ มันถึงกับตอบคำลี้คิมฮวง “ถึงเวลานั้น เราสองน่ากลัวไม่มีทางประมือกันได้อีกแล้ว” เนื่องเพราะมันอาจพบว่า “ถึงตอนนั้นเราสองมิแน่จะกลายเป็นสหายรักกันแล้ว” สำหรับมันที่อุทิศตนให้แก่มรรคาวิชาบู๊ มิยินยอมมีสหาย ความรู้สึกเช่นนี้นับว่าน่ากลัวยิ่งสำหรับมัน
เนื่องเพราะความรู้สึกเยี่ยงนี้กลับสามารถทำลายความคิดความเชื่อที่มันทุ่มเทมาตลอดชีวิต เนื่องเพราะมันมีความเชื่อว่า
“ชีวิตนี้ของผู้แซ่ก๊วยได้อุทิศให้แก่มรรคาวิชาบู๊แล้ว ไหนเลยยังมีเศษหลงเหลือไปคบมิตรสหาย? อย่าว่าแต่...
“มิตรสหายหาได้ง่าย แต่คู่มือที่มีจิตใจต้องตรงกันยากยิ่งจะหา...”
(ฤทธิ์มีดสั้น 2 : 493)
เยี่ยงนี้,ถึงอย่างไรก๊วยซงเอี้ยงจึงยืนยันที่จะประมือกับลี้คิมฮวง
ประมือกับเพียงเพื่อพิสูจน์ความสูงต่ำในวิชาฝีมืออันเป็นมรรคาที่มันอุทิศมาตลอด
การประลองฝีมือของคนทั้งสองจึงเกิดขึ้น
แต่ขณะนั้น ความรู้สึกของคนทั้งสองเป็นเยี่ยงไร?
หลังเสร็จสิ้นการประลอง
ในสายตาของผู้คนทั่วไป การประลองครั้งนั้นอาจนับว่า ลี้คิมฮวงพ่ายแพ้แล้ว
เนื่องเพราะคมมีดสั้นได้ถูกกระบี่เหล็ก “ซงเอี้ยงทิเกี่ยม” ฟันหักไปแล้ว
แต่ก๊วยซงเอี้ยงกลับยอมรับ “ข้าพเจ้าแพ้แล้ว” เนื่องเพราะมันก็ทราบ ความจริงลี้คิมฮวงสามารถที่จะใช้มีดสั้นปลิดชีวิตมันได้อย่างน้อยสามครั้ง แต่ลี้คิมฮวงกลับไม่ใช้ ขณะเดียวกัน แม้มีดสั้นจะบินหักไปแล้ว มันกลับทราบ- ตนไม่แน่จะสามารถปลิดชีวิตลี้คิมฮวงได้
ที่ก๊วยซงเอี้ยงยอมรับมันพ่ายแพ้ต่อลี้คิมฮวง
ด้านหนึ่งนั้นอาจเป็นมันยอมรับวิชาฝีมือของตนเองไม่อาจเทียบเท่าลี้คิมฮวงได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันย่อมทราบ- ระหว่างมันกับลี้คิมฮวงกลับมีสายใยเส้นหนึ่งมาพันผูกให้เกิดความรู้สึกที่มันไม่เคยทีมาก่อน
“สหาย”
ย่อมเป็นความรู้สึกที่เห็นว่า “ตนนับว่ามีสหายแล้ว”
เป็นสหายผู้รู้ใจยิ่งคนหนึ่ง
เป็นความรู้สึกที่มีแต่คนเป็นเท่านั้นที่รู้สึกเยี่ยงนี้ได้
มีแต่คนที่มีน้ำใจเท่านั้นที่สามารถรับรู้ได้
ลี้คิมฮวงนับเป็นผู้มากน้ำใจผู้หนึ่ง!
ก๊วยซงเอี้ยงใช่เป็นผู้มากน้ำใจผู้หนึ่ง?
ในวงการเมืองมักมีคำกล่าว
“ไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูที่ถาวร”
ระหว่างมิตรต่อมิตร ระหว่างศัตรูกับศัตรู เหล่านี้นับว่ามีความสัมพันธ์เยี่ยงไร
และระหว่างศัตรูที่กลับกลายเป็นมิตร ระหว่างมิตรที่กลับกลายเป็นศัตรูนับว่าเป็นเยี่ยงไร?
ในยุทธจักรนิยาย
ระหว่างศัตรูกับศัตรู
การต่อสู้เพื่อเอาชัยระหว่างกัน การประหัตประหารเอาชีวิตซึ่งกันและกันการแย่งยื้อผลประโยชน์ระหว่างกัน เยี่ยงนี้นับถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างยิ่ง
ในยุทธจักร ระหว่างศัตรูกับศัตรู การต่อสู้เพื่อเอาชัยชนะเหนือกันและกันย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ความตายยิ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ระหว่างลี้คิมฮวงกับเซี่ยงกัวกิมฮ้ง จึงมิอาจที่จะหลีกเลี่ยงการประลองฝีมือระหว่างกันได้
ความตายก็ยากจะหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน
ระหว่างสหายกับสหายเล่า
ระหว่างสหาย- สำหรับผู้คนในยุทธจักรแล้วย่อมเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคนที่น่าสนใจยิ่งประการหนึ่ง เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่อาจอธิบายให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจได้ประ การหนึ่ง
เพียงมีผู้ถาม- ท่านไฉนคบผู้คนเป็นสหาย?
ท่านคบผู้คนเป็นสหายเนื่องเพราะเหตุใด?
ท่านหวังสิ่งใดจากสหาย?
ท่านกระทำสิ่งใดเพื่อสหาย?
มีผู้ใดสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้แน่ชัด
“ไม่เพราะเหตุใด?
สี่คำนี้จึงเป็นอริยสัจจ์ของการคบหาสหาย
ท่านหาก‘เพราะเพื่อเหตุใด’จึงไปคบหาสหาย ท่านสามารถคบหาสหายเยี่ยงไร?
ตัวท่านเองก็นับเป็นสหายเยี่ยงไร?
(ล่าสุดขีด หน้า 196)
“คนผู้หนึ่งสามารถคบหาสหายโดย ‘ไม่เพราะเหตุใด’ ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ ไม่ถามไถ่ผลสุดท้าย และไม่มีจุดมุ่งหมาย
แต่หลังจากที่มันคบหาสหายเช่นนี้ สิ่งที่มันกระทำเพื่อสหายก็ไม่ใช่ ’ไม่เพราะเหตุใด’ อีก หากแต่เพื่อน้ำใจที่บอกไม่ถูกชนิดหนึ่ง
เพื่อคุณธรรมและความกล้าหาญที่จำเป็นต้องกระทำโดยไม่อาจบ่ายเบี่ยงได้
เพื่อมีคำว่ากล่าวคือมโนธรรมและจิตสำนึกประจำใจ เพื่อที่จะนอนตาหลับ
และเพื่อที่จะยามมีชีวิตอยู่ อยู่โดยปราศจากความละอาย แม้ตายก็ไม่ตายโดยปราศจากความละอาย!
ไม่เพราะเหตุใด เพราะสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด?
สำเร็จแล้วจะเป็นไร ล้มเหลวแล้วจะเป็นไร? มีชีวิตจะเป็นไร ตายก็จะเป็นไร?
สำเร็จก็จะไม่เปลี่ยนใจ ล้มเหลวก็ไม่ขอเปลี่ยนใจ มีชีวิตก็ไม่เปลี่ยนใจตายก็ไม่ขอเปลี่ยนใจ
ทั้งไม่เปลี่ยนใจ และไม่ยอมก้อมหัวให้ใคร!”
(ล่าสุดขีด : 203)
ความรู้สึกและน้ำใจระหว่างลี้คิมฮวงกับอาฮุยจึงอธิบายได้ยากยิ่ง มิอาจมีผู้ใดสามารถอธิบายได้ เหตุไฉนพวกท่านจึงคบหาเป็นสหายกัน เนื่องเพราะเหตุใดที่ทั้งสองล้วนกระทำเรื่องราวทุกประการให้แก่กันและกัน เพราะเหตุใดที่เมื่อจะกระทำเรื่องราวใดเพื่อกันและกันจึงไม่อาจบ่งบอกได้ว่าไฉนจึงต้องกระทำ
ระหว่างลี้คิมฮวงกับก๊วยซงเอี้ยงก็เฉกเดียวกัน
ก๊วยซงเอี้ยงจึงอาจกล่าว อาฮุยสามารถ “...ได้คบหาลี้คิมฮวงเป็นสหายนับว่าไม่เสียชาติที่เกิดมาแล้ว” เช่นเดียวกับมัน เมื่อมันได้มีโอกาสได้คบหาลี้คิมฮวงเป็นสหาย มันก็นับว่า “ไม่เสียชาติที่ได้เกิดมาแล้ว” เช่นกัน
สำหรับลี้คิมฮวง ท่านมีโอกาสที่ได้คบหาสหายเยี่ยงอาฮุยและก๊วยซงเอี้ยงไยมิใช่เยี่ยงเดียวกัน ไยมิใช่ท่านก็ “ไม่เสียชาติที่เกิดมาแล้ว” เช่นกัน
ก่อนพบกับลี้คิมฮวง อาฮุยย่อมไม่มีสหายและไม่ยินยอมคบหาสหาย
ก่อนพบลี้คิมฮวง ก๊วยซงเอี้ยงย่อมไม่มีสหายและไม่ยินยอมคบหาสหาย
ผู้คนมักมองอาฮุยและก๊วยซงเอี้ยงเป็นคนไร้น้ำใจ เห็นว่าพวกมันล้วนมีจิตใจที่แข็งกระด้างยิ่ง แต่ลี้คิมฮวงกลับไม่เห็นด้วย ท่านมีความเห็นว่า
“...มีบ้างบางคนแม้เปลือกนอกเย็นชากระด้าง แต่ความจริงกลับเป็นมิตรสหายที่มีเลือดเนื้อ มีคุณธรรมดีงาม คนที่ยิ่งไม่ยินยอมให้ความรู้สึกจริงใจปรากฏออกมาแก่ผู้อื่นเห็นน้ำใจของมันมักจะยิ่งสัตย์ซื่อบริสุทธิ์”
(ฤทธิ์มีดสั้น 2 : 605)
ดังนั้น-สำหรับการกระทำเพื่อสหายที่แท้จริงแล้ว มิว่าจะต้องประสบภัยอันตรายเยี่ยงไร พวกมันล้วนยินยอมกระทำและจักต้องกระทำอย่างยิ่ง
เมื่อทราบว่าอาฮุยตกอยู่ภายใต้ขื่อคาแห่งความรักที่มีต่อลิ่มเซียนยี้ แม้จะลำบากยากเข็ญสักเพียงใด ลี้คิมฮวงก็ยินดีกระทำเพื่อช่วยเหลือมันให้หลุดพ้นจากขื่อคานั้น เพื่อให้อาฮุยสามารถเป็นอิสระและมีชีวิตที่ดีงามสืบไป
เช่นเดียวกัน ในยามที่ลี้คิมฮวงตกอยู่ระหว่างความเป็นความตาย แม้จะลำบากสักเพียงใด อาฮุยก็ยังมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปช่วยเหลือ
นี่คือคุณธรรมน้ำมิตรที่ไม่อาจอธิบายได้ประการหนึ่ง
ระหว่างลี้คิมฮวงกับก๊วยซงเอี้ยงเล่า
ศัตรูผู้หนึ่งที่กลับกลายมาเป็นสหายเล่านับเป็นเยี่ยงไร?
สิ่งที่ลี้คิมฮวงให้แก่ก๊วยซงเอี้ยงย่อมเป็นความจริงใจ ย่อมเป็นรอยยิ้ม
รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นยิ่ง!
คนผู้หนึ่งที่โดดเดี่ยวเดียวดายยิ่งตลอดมา หากมันสามารถรับรู้ถึงความอบอุ่นของ “คุณธรรมน้ำมิตร” มันจะเป็นเช่นไร
เพียงแค่น้ำมิตร สำหรับก๊วงซงเอี้ยงแล้วนับว่ามีค่ายิ่ง
ดังนั้น,มันแม้จะต้องประสบกับเรื่องราวประการใดก็ย่อมไม่ไหวหวั่น เพียงเพื่อให้มันสามารถกระทำเรื่องราวใดเพื่อสหาย แม้ตายมันก็ไม่หวั่น
เยี่ยงนี้, เมื่อมันทราบว่าเซี่ยงกัวกิมฮ้งนัดลี้คิมฮวงประฝีมือกัน
ก๊วยซงเอี้ยงทราบดี ฝีมือของทั้งสองนับว่าก้ำกึ่งกันมากทั้งคู่มีโอกาสตายและรอดชีวิตพอๆ กัน
เนื่องเพราะก๊วยซงเอี้ยงทราบว่า ขณะนั้นลี้คิมฮวงไม่พร้อมที่จะต่อสู้ ลี้คิมฮวงยังมีเรื่องที่พึงกระทำต่อสหาย ต่อคนรักอีกมากมายนัก
เนื่องเพราะมันทราบดีลี้คิมฮวงยังมิอาจตายได้ในตอนนี้ ดังนั้นมันยินยอมกระทำเพื่อสหาย ยินยอมไปต่อสู้กับเซี่ยงกัวกิมฮ้งเพื่อสหายเยี่ยงลี้คิมฮวง
ยินยอมต่อสู้ใช้ชีวิตตนเข้าแลกเพียงเพื่อให้ลี้คิมฮวงสามารถรับรู้ถึงจุดอ่อนของเซี่ยงกัวกิมฮ้ง สามารถกำชัยชนะเหนือเซี่ยงกัวกิมฮ้งได้
“ลี้คิมฮวงมิเคยกระทำเรื่องราวใดแก่ก๊วยซงเอี้ยงเลย แต่ก๊วยซงเอี้ยงกลับยินยอมไปตายแทนโดยไม่เสียดายชีวิต!
นี่คือน้ำมิตรที่แท้จริง!
น้ำมิตรเยี่ยงนี้ ทั้งไม่อาจซื้อ และไม่อาจแลกเปลี่ยนได้มา อาจบางทีเนื่องเพราะในโลกยังมีน้ำมิตรเยี่ยงนี้หลงเหลืออยู่ ดังนั้น ความรุ่งโรจน์ของมนุษยชาติจึงสามารถดำรงคงไปตลอดกาลนาน”
(ฤทธิ์มีดสั้น 2 : 609-610)
เป็นน้ำมิตรของผู้ที่ครั้งหนึ่งคือศัตรู
เป็นน้ำมิตรของศัตรูที่เปลี่ยนแปลงมาเป็นมิตร
เป็นสหายที่แท้จริงที่ยากยิ่งจะหาได้
ในยุทธจักรย่อมมีมิตรแท้เยี่ยงนี้ แต่ในสังคมแห่งความจริงเล่า หรือในวงการเมืองเล่า มิตรแท้เยี่ยงนี้นับว่ามีให้เห็นหรือไม่ หรือจะมีเพียงแต่มิตรอีกประเภทหนึ่ง
ประเภทที่โก้วเล้งยอมรับว่ายังคงมีอยู่ และอาจมีอยู่เป็นจำนวนมาก
โก้วเล้งกล่าว:-
..ศัตรูที่ประจันหน้ากันไม่ใช่บุคคลอันตราย
...บุคคลที่อันตรายที่สุดมักเป็นผู้ที่อยู่ข้างกาย
...สหายน้ำมิตรที่แท้จริงไม่น่ากลัว
...ที่น่ากลัวอย่างแท้จริงคือท่านจำแนกไม่ออกว่าผู้ใดเป็นศัตรูท่าน? ผู้ใดเป็นสหายของท่าน
...ดาบในมือสหาย ล้วนน่ากลัวกว่าอาวุธในมือศัตรู เนื่องเพราะไม่ว่าเป็นบุคคลสุขุมรอบคอบปานใด มักลืมระแวดระวังสหาย
ศัตรูย่อมไม่น่ากลัว เนื่องเพราะสามารถรู้ได้ว่านั่นคือศัตรู สามารถคิดค้นหาวิธีป้องกัน ต่อสู้เพื่อเอาชัยได้โดยไม่ยากนัก
หากไม่สามารถต่อสู้เอาชัยศัตรูได้ย่อมไม่ใช่เรื่องน่าละอายแต่ประการใด
แต่สำหรับบุคคลที่ดูประหนึ่งคล้ายเป็นสหายเล่า
พวกมันอาจแอบอ้าง “คุณธรรมน้ำมิตร” เพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เพื่อให้ตนสามารถได้รับสิ่งที่ตนพึงปรารถนา เพียงเพื่อให้ตนมีลาภ ยศ มีอำนาจ พวกมันย่อมไม่ละอายที่จะคบคนเยี่ยงไรเป็นมิตร และย่อมไม่มีความละอายที่จะแสดงตนเป็นศํตรูหากว่าตนไม่ได้รับผลประโยชน์ที่พึงปรารถนา
คนประเภทนี้สามารถคบหาผู้ใดก็ได้ที่สามารถให้ประโยชน์แก่ตน
มิว่าคนผู้นั้นจะเป็นผู้ไร้คุณธรรมเยี่ยงไร?
คนประเภทนี้นับว่าหาได้ง่ายดายยิ่งในโลกปัจจุบัน
ผู้มีมิตรเยี่ยงดี นับว่าเป็นอันตรายยิ่งกว่ามีศัตรูที่กล้าแข็งเสียอีก
คำ “ไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูที่ถาวร” จึงเป็นเพียงคำกล่าวอ้างของบุคคลบางจำพวก ที่กล่าวอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง เพื่อให้ดูว่าตนเองเป็นคนดีงามประเภทหนึ่งเท่านั้น แท้จริงคนจำพวกนี้เป็นเพียงผู้คนที่ยึดถือประโยชน์ของตนและพวกพ้องเป็นหลัก พวกมันพร้อมที่จะเป็นมิตรเมื่อมีผลประโยชน์ร่วมกัน และพร้อมที่จะเป็นศัตรูเมื่อผลประโยชน์ขัดกัน
พร้อมที่จะเป็นมิตรแม้กระทั่งคนที่เคยเป็นศัตรูโดยไร้ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์อย่างสิ้นเชิง
หรือแม้กระทั่งพวกพ้องเมื่อถึงคราวจำเป็นก็ย่อมสามารถทอดทิ้งได้เช่นกัน
คนพวกนี้ เพียงเพื่อให้ตนสามารถบรรลุเป้าหมาย ชีวิตของผู้อื่นย่อมไม่มีความสำคัญแต่ประการใด
ชีวิตของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นศัตรู สหาย หรือแม้กระทั่งพวกพ้องบริวาร
เหล่านี้เป็นเพียงเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น