(1)
ในบู๊ลิ้มขณะนั้นล้วนร่ำลือถึงบุคคลผู้หนึ่ง ในคำร่ำลือนั้นถึงกับกล่าวว่าคนผู้นั้นนับเป็นจอมโจรชั่วร้ายที่มิอาจมีผู้ใดในยุคนั้นชั่วร้ายอำมหิตยิ่งกว่าแล้ว
เป็น ‘เซียวจับอิดนึ้ง’!
เป็นเซียวจับอิดนึ้งที่มีวิชาฝีมือเป็นเลิศยากจะหาผู้ใดทาบติด
เป็นเซียวจับอิดนึ้งที่ชั่วร้ายอำมหิตยากที่จะมีผู้ใดเสมอเหมือน
เป็นจอมโจรอื้อฉาวที่มีเพียงวิญญูชนไร้ตำหนิเยี่ยงเลี่ยงเซี้ยเปียะเท่านั้นที่พอจะสามารถรับมือได้
เลี่ยงเซี้ยเปียะนับเป็นวิญญูชนไร้ตำหนิในยุคนั้นจริงๆ!?
วิชาฝีมือของคนทั้งสอง-หนึ่งแกร่งกร้าวสุดยอด หนึ่งอ่อนหยุ่นถึงขีดสุด กลับคล้ายเป็นศัตรูคู่อริมาแต่กำเนิด
ระหว่างมันทั้งสอง กลับหมายปองอิสตรีคนเดียวกัน
ซิมเปียะกุน!
โก้วเล้งมักบอกต่อผู้คน:-
“เรื่องที่ตนเองเห็นมากับตา ยังมิแน่นักจะยึดถือเป็นจริงเป็นจังได้ อย่าว่าแต่เพียงรับทราบจากคำร่ำลือ”
เรื่องราวที่เกี่ยวกับเซียวจับอิดนึ้งล้วนเป็นผู้คนร่ำลือ
พฤติกรรมของเลี่ยงเซี้ยเปียะอาจมีผู้คนจำนวนไม่น้อยเห็นมากับตา แต่ใช่ทุกประการสามารถเห็นกับตาได้หรือไม่?
ที่แท้คำร่ำลือจอมโจรชั่วร้าย ฉายาวิญญูชนไร้ตำหนิล้วนสามารถยึดถือเป็นข้อเท็จจริงได้ทั้งสิ้น?
ชนชาวบู๊ลิ้มยุคนั้นพากันกล่าวคำร่ำลือถึงวิชาฝีมือเซียวจับอิดนึ้งและเลี่ยงเซี้ยเปียะ:-
“...เซียวจับอิดนึ้งเป็นอัจฉริยะบู๊ลิ้มผู้หนึ่ง เพลงดาบเป็นเอกเทศ นับแต่ออกท่องเที่ยวมิเคยเผชิญพบคู่มือเปรียบติด...”
“เพลงดาบเซียวจับอิดนึ้ง คล้ายฟ้าแลบลั่นอสนีทลาย เพลงกระบี่เลี่ยงเซี้ยเปียะ กลับคล้ายสายลมชุนเทียนโชยลูบไล้ แสงจันทร์สกาวอาบไล้ ทั้งสอง หนึ่งแกร่งกร้าวหนึ่งอ่อนหยุ่น ล้วนบรรลุถึงจุดสูงสุด นับแต่โบราณกาลมา อ่อนหยุ่นสามารถสยบแกร่งกร้าว ทอดตาทั่ววงนักเลง หากบอกว่ามีคนเอาชัย เซียวจับอิดนึ้งได้ เกรงว่ามีแต่เลี่ยงเซี้ยเปียะคนเดียว!”
ในด้านพฤติกรรมของบุคคลทั้งสอง ที่ชนชาวบู๊ลิ้มรับรู้ เซียวจับอิดนึ้งย่อมเป็นโจรร้ายอำมหิตยิ่ง :-
“เซียวจับอิดนึ้งเป็นมหาโจรที่ฆ่าโดยมิกระพริบตา พลังฝีมือสูงล้ำสุดยอด ชาติกำเนิดเร้นลับปริศนา ร่องรอยลี้ลับยากคำนวณ น้อยคนนักที่สามารถเห็นโฉมหน้าแท้จริงของมัน”
มีบ้างบางคนถึงกับกล่าว :-
“เซียวจับอิดนึ้ง? ระหว่างนี้เราไฉนได้ยินแต่นามคนผู้นี้ร่ำไป คล้ายกับเรื่องชั่วร้ายในใต้หล้า ล้วนถูกมันกระทำหมดสิ้น”
แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็เป็นดั่งเอี้ยไคไถ่ที่เพียงฟังแต่คำร่ำลือ แม้พวกมันกำลังเผชิญหน้าอยู่กับเซียวจับอิดนึ้งแล้ว มันกลับมิรู้จัก เซียวจับอิดนึ้งจึงเป็นเพียงผู้ที่ผู้คนทั่วไปรู้จักจากคำร่ำลือเท่านั้น
“เราแม้ไม่รู้จักมัน แต่ทราบว่ามันเป็นจอมโจรประกอบแต่ความชั่วร้าย บุคคลเยี่ยงนี้มิว่าผู้ใดก็สามารถฆ่าทิ้ง เราไหนเลยไม่อาจตัดใจได้”
มีผู้ใดสามารถเห็นเซียวจับอิดนึ้งประกอบเรื่องไร้คุณธรรมเป็นจอมโจรอำมหิตกับตาตนเองบ้างหรือไม่?
เลี่ยงเซี้ยเปียะในสายตาของชนชาวบู๊ลิ้มขณะนั้นกลับแตกต่างไปจากเซียวจับอิดนึ้ง
เลี่ยงเซี้ยเปียะกลับได้รับการยกย่องเป็นวิญญูชน
เป็นวิญญูชนไร้ตำหนิแห่งบ้อเฮี้ยซัวจึง
เป็นหนึ่งใน“ลักกุนจื้อ”-หกวิญญูชนรุ่นเยาว์ที่มีชื่อเสียงกระเดื่องบู๊ลิ้มยิ่งยุคนั้น
หกวิญญูชนที่ประกอบด้วยมัน- เลี่ยงเซี้ยเปียะ เอี้ยไคไถ่ ลิ้วเส็กแช ลี้กัง จูแป๊ะจุ้ย และฉื่อแชติ้ง
สำหรับเลี่ยงเซี้ยเปียะแล้ว ในหกวิญญูชนมันนับว่าโดดเด่นที่สุด
โดดเด่นทั้งวิชาฝีมือที่เลิศล้ำและชาติตระกูลที่สูงส่ง
โดดเด่นทั้งภาพของความเป็นวิญญูชนที่ควรแก่การยกย่อง
“เลี่ยงเซี้ยเปียะเป็นทายาทตระกูลสูงศักดิ์ ประพฤติเมตตาเที่ยงธรรม ไม่มุ่งหวังชื่อเสียงเกียรติภูมิ กระทำเพื่อบุคคลอื่น คู่ควรกับการรับคำไต้เฮี้ยบ(วีรบุรุษ) มิว่ามันไปถึงที่ใด ผู้อื่นล้วนให้ความเคารพนบนอบ กล่าวได้ว่ามันเข้าถึงจิตใจผู้คน ได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้น”
ผู้คนล้วนยกย่องพวกมัน:- “...หากวิจารณ์ด้านเกียรติภูมิและพลังฝีมือ มิมีผู้ใดเหนือกว่าคนทั้งหกนี้” พวกมันนอกจากเป็นทายาทตระกูลเลื่องชื่อ เป็นศิษย์สำนักมาตรฐานแล้ว ชนชาวบู๊ลิ้มยังเห็นว่า ทั้งหมดล้วนประพฤติเที่ยงธรรมเปิดเผยหมดจดยิ่ง
หากมีผู้ใดบอกว่าเลี่ยงเซี้ยเปียะและเหล่าวิญญูชนทั้งหลายมีพฤติการณ์บางประการที่ปราศจากคุณธรรม ย่อมมิมีผู้ใดเชื่อถือ
นอกจากมิยินยอมเชื่อถือแล้วมีไม่น้อยที่อาจออกรับแทนมัน
มีไม่น้อยที่เจ็บแค้นแทนมัน!
ระหว่างเซียวจับอิดนึ้งกับเลี่ยงเซี้ยเปียะกับพวกทั้งหกและเหล่าผู้ที่ได้รับการยกย่องเป็นวิญญูชนเกลื่อนวงบู๊ลิ้มขณะนั้นจึงนับได้ว่าแตกต่างกันยิ่ง
เซียวจับอิดนึ้งมีใดที่สามารถสู้เลี่ยงเซี้ยเปียะทั้งหกได้
บุตรสารถีควบขับรถอันธรรมดาสามัญ วิชาฝีมือที่มิอาจยืนยันได้มาได้รับการถ่ายทอดจากปรมาจารย์สำนักมาตรฐานแห่งใด เยี่ยงนี้มีอันใดสามารถสู้กับเลี่ยงเซี้ยเปียะได้!
แต่พฤติการณ์ของบุคคลทั้งหมดนี้ ผู้ใดสมควรถูกประณามเป็นโจรร้ายหรือสมควรได้รับการยกย่องเป็นวิญญูชนที่แท้จริง
เพียงคำร่ำลือสามารถยึดถือเป็นจริงเป็นจังได้?
เพียงพฤติกรรมบางประการสามารถตัดสินความดีงามหรือชั่วร้ายของผู้ผู้คนอย่างแน่ชัดได้ ?
ซิมเปียะกุนอาจถูกนับเป็นโฉมสะคราญอันดับหนึ่งของแผ่นดิน แท้จริงการที่นางได้หมั้นหมายกับเลี่ยงเซี้ยเปียะ ชาวบู๊ลิ้มล้วนกล่าวขวัญทั้งคู่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง คล้ายดั่งเยี่ยงนี้ไม่เคยมีมาแต่โบราณกาลและยากที่จะมีอีกในอนาคต
ซิมเปียะกุนนับเป็นสตรีที่มีรูปโฉมงดงามยิ่ง มีกิริยานุ่มนวลยิ่ง บริสุทธิ์ยิ่ง
นางนับเป็นกุลสตรีในห้องหอที่บริสุทธิ์ยิ่ง!
แต่นี่นับเป็นโชควาสนาหรือคราวเคราะห์ของนาง
หากนางไม่ได้เป็นโฉมสะคราญอันดับหนึ่งของแผ่นดิน และมิได้เป็นคู่หมั้นคู่หมายของเลี่ยงเซี้ยเปียะ นางคงไม่ประสบชะตากรรมที่แสนทราม ลำบากยากเข็ญยิ่งทั้งทางกายและทางจิตใจ
ไยนางมิใช่สามารถที่จะเสพสุขได้อย่างสุขสงบยิ่ง! มีครอบครัวที่มีความสุขยิ่ง
แต่หากไม่มีนาง มีผู้ใดสามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของเซียวจับอิดนึ้งกับเลี่ยง เซี้ยเปียะและพวกได้เล่า?
หากเทพสำราญมิมุ่งหวังในตัวของนางอันเนื่องมาจากกิตติศัพท์ความงามของนาง ซิมเปียะกุนย่อมตกแต่งกับเลี่ยงเซี้ยเปียะใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านไร้ตำหนิอย่างเงียบสงบ ปล่อยให้เซียวจับอิดนึ้งยังคงเป็นโจรร้ายอำมหิตตลอดกาล เลี่ยงเซี้ยเปียะยังคงเป็นวิญญูชนตลอดไป
เนื่องเพราะเทพสำราญวางแผนที่จะได้ตัวซิมเปียะกุน ทำให้เซียวจับอิดนึ้งต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ พาตัวเข้าไปผูกมัดสัมพันธ์กับซิมเปียะกุนจนทำให้วิถีชีวิตอันแสนจะราบเรียบของนางต้องเปลี่ยนแปรไป
นางได้รู้จักจอมโจรเยี่ยงเซียวจับอิดนึ้งได้ลึกซึ้งขึ้น
เข้าใจความเป็น“วิญญูชน”ของเลี่ยงเซี้ยเปียะและพวกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
เข้าใจถึงแก่นแท้ของบุคคลบางประเภทที่ได้รับการยกย่องเป็นวิญญูชนได้อย่างลึกซึ้งยิ่ง
คนผู้หนึ่งมิอาจที่จะคำนวณพฤติการณ์ว่าเป็นประพฤติตนเป็นผู้มีคุณธรรมประกอบแต่ความดีงามหรือเป็นบุคคลชั่วร้ายจากคำร่ำลือของผู้คนได้
ผู้คนบางคนคล้ายกับเป็นคนชั่วร้ายแต่พวกมันนับเป็นคนชั่วร้ายจริงหรือไม่?
ผู้คนบางคนคล้ายกับเป็นคนดีงาม แต่พฤติการณ์อันเป็นแก่นแท้ของพวกมันใช่สามารถนับเป็นคนดีงามได้จริงๆ หรือไม่?
วิญญูชนเยี่ยงดาบทองหมื่นชนะแพ้พงปวยและมือกระบี่หน้าหยกลิ้วย่งน้ำที่ดูสัตย์ซื่อมีคุณธรรมยิ่งไฉนที่คนหนึ่งกลับมีเบื้องหลังเป็นโจรราคะย่ำยีดรุณีในห้องหอเดือนหนึ่งอย่างน้อยเจ็ดแปดคน และอีกคนหนึ่งกลับใช้ฐานะสำนักคุ้มกันภัยของตนปล้นชิงเอาทรัพย์สินของลูกค้าสร้างฐานะความร่ำรวยให้แก่ตน
พวกมันเป็นสหายเลี่ยงเซี้ยเปียะแต่กลับมีพฤติการณ์คิดทำร้ายย่ำยีคู่หมั้นคู่หมายของเลี่ยงเซี้ยเปียะ!
เทพอสนีไท้โอ้วลุ้ยมั่วตึ้งและวิชชุแลบลั่นเล้งก้วงล้วนได้รับการยกย่องเป็นผู้เทิดทูนคุณธรรม เป็นชายชาตรีแห่งยุค
ลู่ตังซี่หงี- สี่ผู้กล้าแคว้นลู่ตัง ความจริงใช่แซ่ซิม ย่อมเป็นญาติห่างๆ ของเข็มทองตระกูลซิม แต่เหตุไฉนพวกมันจึงร่วมมือกับสองเทพอสนีวิชชุทำลายล้างตระกูลซิม
ไฉนพวกมันจึงยินยอมเป็นเครื่องมือของเทพสำราญทำลายล้างตระกูลซิม
หรือแท้ที่จริงแล้วชื่อเสียงความเป็นวิญญูชนผู้กอปรด้วยคุณธรรมของพวกมันกลับสามารถใช้เงินตราซื้อได้?
เตี่ยบ้อเก๊ก-เจ้าสำนักโซยเทียนบ้อเก็กมึ้ง ตู้เซ่าเทียน- ผู้กล้าแคว้นกวนตง ลี้กัง- หนึ่งในหกวิญญูชนรุ่นเยาว์ ซีทู้งตงเพ้ง- หัวหน้าสำนักคุ้มกันภัยผู้มีฉายาอึ้งยู่ไท้ซัว(มั่นคงดั่งบรรพตไท้ซัว) และไฮ้เล้งจื้อ- มือกระบี่ที่หลงเหลืออยู่เพียงคนเดียวของสำนักไฮ้น้ำ ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นผู้กล้าหาญนามกระเดื่องและเป็นสหายสนิทของเลี่ยงเซี้ยเปียะ
ในวันที่เซียวจับอิดนึ้งเดินทางมาส่งซิมเปียะกุนต่อเลี่ยงเซี้ยเปียะ พวกมันย่อมอยู่ด้วยกัน
พวกมันล้วนรับรู้แท้จริงแล้วเซียวจับอิดนึ้งอาจมิใช่คนเลวร้าย
อย่างน้อยเหตุการณ์ล้มล้างหมู่บ้านเม่งซาเอี้ยที่เกิดขึ้นในช่วงที่ซิมเปียะกุนอยู่กับเซียวจับอิดนึ้ง ย่อมมิใช่การกระทำของเซียวจับอิดนึ้งแน่นอน
ยิ่งเหตุการณ์เผาทำลายล้างหมู่บ้านตระกูลซิมก็ยิ่งแน่ชัดว่าเป็นการกระทำของผู้ใด
เนื่องเพราะพวกมันล้วนได้รับการยกย่องเป็นผู้มีคุณธรรม เป็นคนดีงามในวงบู๊ลิ้ม!
วาจาของพวกมันจึงน่านับถือยิ่ง
“เรื่องนี้อาจมิใช่การลงมือของเซียวจับอิดนึ้ง คดีอื่นอีกคงไม่ใช่มันลง มือ ครานี้พวกเราปรักปรำมัน เรื่องอื่นที่ผ่านมาอาจใส่ไคล้ปรักปรำมันเช่นกัน”
“เราท่านเมื่อประโคมโหมยกย่องตนเป็นวีรบุรุษผู้กล้า พฤติการณ์ที่กระทำขึ้นก็มิอาจฝืนคำ ‘คุณธรรม’ยินยอมปลดปล่อยคนชั่วร้ายพันคน ไม่ขอปรักปรำคนดีงามคนเดียว”
แต่ไฉนพวกมันยังต้องตามล่ากำจัดเซียวจับอิดนึ้ง
แผนการกำจัดเซียวจับอิดนึ้งของพวกมันกลับเพียบด้วยเล่ห์อุบายหยาบช้ายิ่ง
เป็นแผนการที่ไร้คุณธรรมอย่างยิ่ง!
พวกมันเพียงอ้างคำร่ำลือของวงบู๊ลิ้มกำจัดเซียวจับอิดนึ้งเพราะความแค้นส่วนตนเท่านั้น มิได้สนใจว่าแท้จริงแล้วเซียวจับอิดนึ้งเป็นจอมโจรชั่วร้ายจริงหรือไม่
เป็นการรุมล้อมสังหารผู้คนในยามเมามายไร้สติเท่านั้นเอง
แท้จริงที่พวกมันคิดสังหารเซียวจับอิดนึ้งย่อมมิใช่เพราะเซียวจับอิดนึ้งเป็นจอมโจรอื้อฉาวแห่งยุค
มิใช่เนื่องเพราะเซียวจับอิดนึ้งเป็นคนชั่วร้ายผู้หนึ่ง
ที่พวกมันคิดกำจัดเซียวจับอิดนึ้ง พวกมันย่อมไม่สนใจที่จะรู้ว่าแท้จริงแล้วเซียวจับอิดนึ้งนับเป็นคนเยี่ยงไร?
ที่พวกมันคิดกำจัดเพียงเพราะมีแต่เซียวจับอิดนึ้งตายพวกมันจึงสามารถนอนตาหลับได้ มิหนำเกียรติภูมิกลับเลื่องลือไกลอีกด้วย
ที่พวกมันทุ่มเทวิธีการทั้งมวล โดยมิได้คำนึงถึงคุณธรรมใดๆ ในการคิดกำจัดเซียวจับอิดนึ้ง เนื่องเพราะแท้จริงแล้วพวกมันล้วนกระทำเรื่องชั่วร้ายบางประการที่มิอาจบอกต่อผู้คนได้ และเรื่องชั่วร้ายเหล่านั้นล้วนถูกเซียวจับอิดนึ้งพบเห็น
พวกมันล้วนแสดงวาทกรรมประโคมโหมตนเป็นวิญญูชนคนดีงาม เป็นวีรบุรุษผู้กล้า แต่พฤติการณ์เบื้องหลังของพวกมันล้วนผิดแผกเป็นนัยกลับอย่างสิ้นเชิง !
ลี้กังได้รับการยกย่องเป็นวิญญูชนอันแท้จริงที่ไม่หวั่นไหวต่ออิสตรี แท้จริงแล้วใช่กระนั้นหรือ?
เซียวจับอิดนึ้งกลับพบว่า วิญญูชนเยี่ยงลี้กังนั้น
“...ยามอยู่เบื้องหน้าบุรุษมันอาจเป็นวิญญูชนสุภาพบุรุษ แต่พอเผชิญพบสตรีสะคราญโฉม ทั่วทั้งร่างมันคงมีแต่ผมเผ้าจึงสุภาพเรียบร้อย !”
เลี่ยงเซี้ยเปียะเล่า?
แท้จริงแล้วเลี่ยงเซี้ยเปียะเป็นวิญญูชนเยี่ยงไร ในเมื่อแท้จริงแล้วพฤติการณ์ของเตี่ยบ้อเก็กและพวกล้วนเกิดจากการกระตุ้นยุยงและกำหนดขึ้นจากความชาญฉลาดของพวกมัน
เลี่ยงเซี้ยเปียะไยต้องลงมือด้วยตนเอง!
“ซึ่งความจริงแต่ละบุคคล ล้วนมีโฉมหน้าสองประการ มีทั้งด้านดีงามและด้านชั่วร้าย มิฉะนั้นอันไม่อาจเพียงประกอบแผนการใหญ่ กระทั่งคิดมีชีวิตก็ไม่สามารถมีชีวิตสืบต่อ”
คนชั่วร้ายมิแน่ว่ามีบางครั้งสามารถประพฤติดีงามได้
คนดีงามก็มิแน่ว่ามีบางครั้งที่พวกมันมีพฤติการณ์ชั่วร้าย
มิหนำซ้ำคนที่ประโคมโหมเป็นวิญญูชนผู้สัตย์ซื่อประกอบแต่คุณธรรมความดีงาม บางครั้งกลับซ่อนเร้นพฤติการณ์อันชั่วร้ายยิ่งกว่าไว้เบื้องหลัง รอจนมนต์ขลังแห่งวาทกรรมที่พวกมันใช้ประโคมโหมความดีงามของตนเสื่อมคลาย ความจริงแท้จึงค่อยปรากฏดังที่เคยปรากฏมาแล้วในอดีตและจักปรากฏต่อไปในอนาคต
วาทกรรมมิอาจเป็นสิ่งยืนยันความเป็นวิญญูชนหรือคนชั่วร้ายของผู้คนได้ มีแต่พฤติการณ์เท่านั้นที่สามารถบ่งบอกได้ !
(2)
มือของเลี่ยงเซี้ยเปียะลูบคล้ำกระบี่ทองคำของมันอีกคราหนึ่ง นิ้วมือที่ร้อนผ่าวพอกระทบกระบี่ย่อมให้ความรู้สึกที่เย็นรื่นแก่มันประการหนึ่ง
เป็นความรู้สึกที่เย็นรื่นภายหลังความลิงโลดในชัยชนะที่มันสามารถมีเหนือเซียวจับอิดนึ้ง
เป็นความรู้สึกเย็นรื่นก่อนที่มันจักต้องตกตะลึงกับความเปลี่ยนแปรที่มันเองมิได้คาดคิดมาก่อน
ความเปลี่ยนแปรที่เกิดขึ้นบนตัวกระบี่ทองคำที่เหล่าผู้เฒ่าในท้องถิ่นมอบให้แก่มัน
ตัวกระบี่ทองคำที่เหล่าผู้เฒ่าท้องถิ่นลงนามหลังคำจารึก ‘เฮียบหงีบ้อซัง’- คุณธรรมไร้เทียมทาน ที่ยกย่องเกียรติคุณของมัน
เลี่ยงเซี้ยเปียะกลับพบว่าบัดนี้ข้อความอักษรที่จารึกได้เปลี่ยนไปแล้ว
มันพบว่าข้อความจารึกตัวอักษรส่วนหนึ่งตลบกลับ
‘เฮียบหงีบ้อซัง’กลับกลายเป็น‘เฮียบหงีซังบ้อ’- คุณธรรมไร้ทั้งสิ้น
เปลี่ยนรายชื่อผู้ลงนามเป็น ‘จอมโจรเซียวจับอิดนึ้งน้อมกำนัล’
หรือนี่เนื่องเพราะเกียรติคุณของความเป็นวิญญูชนผู้มีคุณธรรมไร้เทียมทานของมันล้วนมิใช่วิญญูชนผู้มีคุณธรรมไร้เทียมทานอีกต่อไป?
ในวงบู๊ลิ้มล้วนให้การยกย่องเลี่ยงเซี้ยเปียะเป็นวิญญูชนไร้ตำหนิ
แม้บ้านของมัน ผู้คนยังเรียกเป็นหมู่บ้านไร้ตำหนิ!
เป็นหมู่บ้านบ้อเฮี้ยซัวจึง-หมู่บ้านไร้ตำหนิที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางขุนเขา และตั้งตระหง่านอยู่ในจิตใจคน
เป็นวิญญูชนที่คล้ายกับเป็นผู้เปรื่องปราดยิ่ง เกิดในตระกูลสูงส่งยิ่ง!
บุคลิกคมคายสง่ายิ่ง!
ฝีมือวิชาการต่อสู้ล้ำเลิศยิ่ง!
ทันทีที่เซียวจับอิดนึ้งได้พบเห็นเลี่ยงเซี้ยเปียะ แม้มันไม่เคยรู้จักเลี่ยงเซี้ยเปียะแต่เมื่อพบเห็นบุรุษหนุ่มที่ท่วงท่าเรียบร้อยสำรวม ที่ในความเรียบร้อยนุ่มนวลนั้นกลับแฝงไว้ซึ่งอำนาจราศีอันสูงสง่าสุดอาจเอื้อมอยู่ เซียวจับอิดนึ้งย่อมรู้ได้ทันทีว่าบุรุษผู้นี้ย่อมเป็นเลี่ยงเซี้ยเปียะ
ทันที่ที่เลี่ยงเซี้ยเปียะเหลือบเห็นเซียวจับอิดนึ้ง มันก็คล้ายเห็นความผิดแผกแตกต่างไปจากผู้คนทั่วไปของเซียวจับอิดนึ้งที่มันเองมิอาจจะบอกได้
เลี่ยงเซี้ยเปียะคิดจะหยุดชมดูเซียวจับอิดนึ้ง แต่มันมิอาจกระทำได้เนื่องจากมันเป็นวิญญูชน
เป็นวิญญูชนที่เห็นว่าการเขม้นมองคนผู้หนึ่งเป็นเรื่องเสียมารยาทอย่างยิ่งยวด
ชั่วชีวิตของเลี่ยงเซี้ยเปียะ ไม่เคยเสียมารยาทต่อผู้ใดมาก่อน!
เป็นวิญญูชนที่ย่อมไม่เคยสร้างความยากลำบากใจแก่ผู้คนมาก่อน!
เป็นวิญญูชนที่ยึดถือมารยาทอย่างเคร่งครัด เรื่องที่บุคคลอื่นมิยอมบอก ย่อมไม่คุกคามเค้นถามเด็ดขาด
เป็นวิญญูชนที่ดูสงบเยือกเย็นและมั่นคงตลอดกาล
เลี่ยงเซี้ยเปียะเป็นวิญญูชน
โก้วเล้งมีความเห็น
“คนโง่งมย่อมมิใช่วิญญูชน แต่วิญญูชนจะมากน้อยต้องแฝงความโง่งม การประพฤติตนเป็นวิญญูชนมิใช่เรื่องชาญฉลาดจริงๆ”
การประพฤติตนเป็นวิญญูชนของเลี่ยงเซี้ยเปียะนับมิใช่เรื่องชาญฉลาดจริงๆ!
อย่างน้อยมันก็ทราบ
แต่เนื่องเพราะมันคิดเป็นวิญญูชน และเนื่องเพราะผู้คนทั่วไปล้วนยกย่องมันเป็นวิญญูชน ดังนั้นสิ่งที่มันคิดกระทำบางครั้งมันจึงมิอาจที่จะกระทำ
เลี่ยงเซี้ยเปียะหมั้นหมายกับซิมเปียะกุน
แม้มันจะรักนางอย่างยิ่ง ปรารถนาจะเคียงคู่นางตลอดเวลาอย่างยิ่ง แต่เนื่องเพราะมันเป็นวิญญูชน ดังนั้นสิ่งที่มันคิดกระทำจึงมิได้กระทำ
“บุคคลเช่นเลี่ยงเซี้ยเปียะ เพราะเพื่อศักดิ์ศรีเกียรติภูมิ กระทั่งชีวิตตนเองยังไม่คำนึง ย่อมละเลยลืมเลือนคู่หมั้นไปชั่วขณะ”
เสียวกงจื้อกล่าวไม่ผิด
“...เราหากเป็นสตรี ยินยอมแต่งงานกับเซียวจับอิดนึ้ง ไม่ขอแต่งกับเลี่ยงเซี้ยเปียะ”
เนื่องเพราะเซียวจับอิดนึ้งมิใช่วิญญูชน เซียวจับอิดนึ้งจึงผิดแผกไปจากเลี่ยง เซี้ยเปียะ
“คนเยี่ยงเซียวจับอิดนึ้ง หากรักใคร่สตรีนางหนึ่งจะไม่คำนึงถึงทุกสรรพสิ่ง แต่เลี่ยงเซี้ยเปียะมีเรื่องผูกพันกังวลมากไป การเป็นภรรยาคน เยี่ยงนีมิสุขสบายนัก”
ซิมเปียะกุนย่อมรับรู้คำร่ำลือเกี่ยวกับเซียวจับอิดนึ้งว่ามันนับเป็นจอมโจรผู้อื้อฉาวในวงบู๊ลิ้มยุคนั้น เป็นจอมโจรที่ผู้คนกล่าวขวัญถึง- มิว่าเรื่องราวชั่วร้ายประการใดล้วนเป็นการกระทำของเซียวจับอิดนึ้ง
ดูเหมือนว่าเรื่องราวที่เป็นความชั่วร้ายทั้งมวลในวงบู๊ลิ้มยุคนั้นล้วนถูกผู้คนยกให้เป็นการกระทำของเซียวจับอิดนึ้งทั้งสิ้น
แต่เมื่อชะตากรรมของซิมเปียะกุนผันแปร ได้มีโอกาสรู้จักและร่วมสุขร่วมทุกข์กับเซียวจับอิดนึ้ง นางกลับพบว่าคำร่ำลือเกี่ยวกับมันล้วนเป็นเพียงคำร่ำลือที่ไม่มีความจริงแม้แต่น้อย ขณะเดียวกันนางก็เริ่มมองเห็นความจริงอีกด้านหนึ่งของเลี่ยงเซี้ยเปียะ
เป็นความจริงอีกด้านหนึ่งของวิญญูชนไร้ตำหนิเยี่ยงเลี่ยงเซี้ยเปียะ!
ระหว่างเซียวจับอิดนึ้งกับซิมเปียะกุน ความสัมพันธ์และความรักที่ก่อเกิดขึ้นในท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งย่อมทำให้ทั้งสองเข้าใจซึ้งถึงแก่นแท้ของฝ่ายตรงข้าม ในขณะที่ซิมเปียะกุนนับเป็นกุลสตรีดีงามยิ่ง จะอย่างไรนางก็หมั้นหมายอยู่กับเลี่ยงเซี้ยเปียะ ดังนั้นแม้นางจะรักเซียวจับอิดนึ้งอย่างยิ่ง นางก็มิอาจที่จะใช้ชีวิตร่วมอยู่ท่ามกลางหุบเขารกร้างกับมันได้ เซียวจับอิดนึ้งก็รักนางเกินกว่าที่จะเห็นแก่ตัวเหนี่ยวรั้งให้นางกระทำในสิ่งที่ผิดคุณธรรมของกุลสตรีได้ ดังนั้นเซียวจับอิดนึ้งจึงได้แต่ตัดสินใจส่งตัวซิมเปียะกุนกลับคืนให้กับเลี่ยงเซี้ยเปียะด้วยความปวดร้าวยิ่ง
ซิมเปียะกุนตัดสินใจจากเซียวจับอิดนึ้งกลับคืนสู่อ้อมอกของเลี่ยงเซี้ยเปียะด้วยเหตุผลสำคัญ- นางไม่ควรกระทำความผิดต่อเลี่ยงเซี้ยเปียะ แต่ชั่วระยะเพียงไม่ทันข้ามคืนนางกลับพบเห็นธาตุแท้ของวิญญูชนเยี่ยงเลี่ยงเซี้ยเปียะ
ซิมเปียะกุนกลับพบว่าที่แท้วิญญูชนเยี่ยงเลี่ยงเซี้ยเปียะกลับเป็นวิญญูชนจอมปลอมผู้หนึ่งเท่านั้น
เป็นบุคคลที่สวมหน้ากากความเป็นวิญญูชนผู้หนึ่งเท่านั้น!
เลี่ยงเซี้ยเปียะ- แท้ที่จริงมันนับเป็นบุคคลที่น่าเห็นใจยิ่ง บางครั้งกลับน่าเห็นใจยิ่งกว่าเซียวจับอิดนึ้ง ผู้คนรู้จักมันในฐานะของวิญญูชนไร้ตำหนิ คำ‘วิญญูชนไร้ตำหนิ’กลับเป็นพันธะผูกมัดมิให้มันสามารถกระทำในสิ่งที่มันคิดจักกระทำได้ มันแม้มีคู่หมั้นที่เพียงพร้อมไปด้วยความงามและความเป็นกุลสตรีที่ดีงาม แต่มันก็มิอาจที่จะแสดงออกถึงความรักระหว่างหนุ่มสาวได้อย่างอิสระ ความเป็นวิญญูชนไร้ตำหนิทำให้เลี่ยงเซี้ยเปียะต้องห่างเหินจากนางจนดูราวกับว่ามันมิได้ให้ความสำคัญกับนางมากนัก ดังนั้นเมื่อชะตากรรมได้ชักนำเซียวจับอิดนึ้งมาสอดแทรกกลางระหว่างบุคคลทั้งสอง โศกนาฏกรรมแห่งความรักจึงเกิดขึ้น
เนื่องเพราะเลี่ยงเซี้ยเปียะเกรงกลัวที่จะสูญเสียคนรัก
เนื่องเพราะเลี่ยงเซี้ยเปียะย่อมมีความรักต่อซิมเปียะกุนอย่างยิ่ง
เนื่องเพราะเลี่ยงเซี้ยเปียะรักซิมเปียะกุนลึกล้ำยิ่ง
ดังนั้นมันจึงแค้นเซียวจับอิดนึ้งอย่างยิ่ง แค้นเซียวจับอิดนึ้งลึกล้ำยิ่งดุจเดียวกัน
คำ‘วิญญูชนไร้ตำหนิ’ทำให้เลี่ยงเซี้ยเปียะมิอาจแสดงความรักและความแค้นที่มีอยู่ในใจของมันออกมาให้ผู้ใดมองเห็นได้
คำ‘วิญญูชนไร้ตำหนิ’จึงคล้ายเป็นคำที่ยิ่งทำให้ความรักและความแค้นของมันยิ่งล้ำลึกสุดหยั่งคาดได้
ธาตุแท้ที่เป็นความจริงอีกด้านหนึ่งของมนุษย์ที่ถูกคำ‘วิญญูชนไร้ตำหนิ’บีบบังคับกดดันไว้ในส่วนลึกของจิตใต้สำนึกจึงแสดงออกมาในอีกด้านหนึ่งของพฤติกรรมที่เลวร้ายสุดหยั่งคาดได้
และเนื่องเพราะคำ‘วิญญูชนไร้ตำหนิ’และ‘คุณธรรมไร้เทียมทาน’ ซึ่งนับเป็นเกียรติภูมิที่มันจักต้องรักษาไว้ แผนการชำระความแค้นทำลายล้างเซียวจับอิดนึ้งจึงยิ่งลึกล้ำยิ่ง โหดอำมหิตยิ่ง
เพื่อให้สามารถแก้แค้นได้สำเร็จ เพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิ ชื่อเสียงและศักดิ์ศรี เลี่ยงเซี้ยเปียะจึงยินยอมทุกอย่าง แม้จะต้องใช้ชีวิตของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสหายและพวกพ้องบริวารของมัน เป็นเครือญาติหรือผู้สนิทชิดเชื้อกับมันสังเวยไปสักกี่มากน้อยก็ตาม
เลี่ยงเซี้ยเปียะจงใจให้เตียบ้อเก็กและพวกทั้งสี่รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับเซียวจับอิดนึ้งจากปากของซิมเปียะกุน กระตุ้นให้พวกมันไปฆ่าเซียวจับอิดนึ้งแทนตน เพื่อตนจะได้พ้นมลทินข้อกล่าวหาไล่ล่าคนเมามายหมดหนทางสู้ ยังคงความเป็นวิญญูชนไว้ตลอดกาล เมื่อมีผู้รู้ซึ้งถึงธาตุแท้ของมันเยี่ยงซีทู้ตงเพ้ง
“ท่านมิได้ร่วมเดินทางไปกับพวกมัน เนื่องเพราะทราบว่า เซียวจับอิดนึ้งเมามายแล้ว เตี่ยบ้อเก็กและพวกต้องลงมือประสบผล ซึ่งความจริง ใจจริงท่านก็คิดใคร่ฆ่าเซียวจับอิดนึ้งถึงแก่ชีวิต มิหนำซ้ำเหตุผลของท่าน ยังมากมายเพียบพร้อมกว่าพวกเรา...”
“เราเพียงคิดบอกว่า เลี่ยงกงจื้อเมื่อครู่หากฆ่าเซียวจับอิดนึ้งลำบากเพียงยกมือ แต่หากถูกคนล่วงรู้ว่า เลี่ยงกงจื้อก็ฉกฉวยโอกาสที่ผู้อื่นประสบภัย ลงมือจู่โจมซ้ำเติม ไยมิใช่เสื่อมเสียเกียรติภูมิของท่าน...”
“...เมื่อมีคนมุ่งมั่นสังหารเซียวจับอิดนึ้ง เลี่ยงกงจื้อไยต้องลงมือด้วยตัวเอง?”
เลี่ยงเซี้ยเปียะได้แต่กำจัดสหายร่วมเส้นทางวิญญูชนเยี่ยงซีทู้ตงเพ้ง!
สังหารซีทู้ตงเพ้งเพียงเพื่อให้แผนการยืมมือผู้คนกำจัดเซียวจับอิดนึ้งของตนเป็นความลับตลอดกาล
แต่เมื่อเซียวจับอิดนึ้งสามารถรอดชีวิตสืบต่อไปได้ เลี่ยงเซี้ยเปียะกลับไม่รีบร้อนที่จะสังหารเซียวจับอิดนึ้งด้วยตนเอง
ความคิดและแผนการของเลี่ยงเซี้ยเปียะกลับยิ่งลึกซึ้งและโหดร้ายอำมหิตยิ่งขึ้น
เป็นแผนการที่มุ่งหวังให้เซียวจับอิดนึ้งจบสิ้นชีวิตลงไปพร้อมๆ กับความเป็นโจรร้ายผู้อื้อฉาวแห่งยุค
ให้คำร่ำลือ ‘จอมโจรชั่วร้าย’คงอยู่กับชื่อเซียวจับอิดนึ้งตลอดกาล!
ตอกตรึงให้ความเป็น‘จอมโจรชั่วร้าย’ของเซียวจับอิดนึ้งติดแน่นอยู่ในใจของซิมเปียะกุนตลอดกาล!
ให้คำ ‘คุณธรรมไร้เทียมทาน’ คงอยู่กับมันตลอดกาล!
แต่มันจักสามารถกระทำได้หรือ?
วันที่เซียวจับอิดนึ้งท้าสู้เทพสำราญ-เซียวเอี้ยโฮ้ว ณ ผาฆ่าคน เลี่ยงเซี้ยเปียะดูคล้ายคนผิดหวังที่เมามายไม่ได้สติผู้หนึ่ง
มันที่แท้มายมายจริงหรือแสร้งเมามาย?
เซียวจับอิดนึ้งอาจสามารถเอาชัยเหนือเทพสำราญได้ แต่ผู้ที่ได้ชัยอย่างแท้จริงในครั้งนั้นกลับมิใช่เซียวจับอิดนึ้ง
กลับเป็นเลี่ยงเซี้ยเปียะ!
ภายหลังที่เซียวจับอิดนึ้งสามารถเอาชัยเหนือเทพสำราญได้แล้ว ปรากฏหน่วยงานฟ้าของเทพสำราญขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง คล้ายดั่งว่าแท้จริงแล้วเทพสำราญยังมิจบชีวิตและมุ่งแก้แค้นเซียวจับอิดนึ้ง ขณะเดียวกันวิถีชีวิตของเซียวจับอิดนึ้งก็ถูกผู้คนบันดาลให้เปลี่ยนแปลงไป เปลี่ยนแปลงจากเซียวจับอิดนึ้งที่เป็นจอมโจรอื้อฉาวกลายเป็นวีรบุรุษผู้กล้าที่มีชื่อเสียงกระเดื่องวงบู๊ลิ้ม มีทรัพย์สมบัติมหาศาล
ไม่มีผู้ใดทราบว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่แท้จริงของแผนการร้ายครั้งนี้ กลับเป็นเลี่ยงเซี้ยเปียะ
เลี่ยงเซี้ยะเปียะที่เป็นวิญญูชนผู้มี ‘คุณธรรมไร้เทียมทาน’ ของวงบู๊ลิ้มยุคนั้น
หากเลี่ยงเซี้ยเปียะไม่บ่งบอกออกมาด้วยตนเอง แม้เซียวจับอิดนึ้งพอจะคาดเดาได้ แต่มันก็ไม่กล้ายืนยันอย่างเด็ดขาดได้เลยว่าเป็นแผนการของเลี่ยงเซี้ยเปียะ
เลี่ยงเซี้ยเปียะอาศัยเซียวจับอิดนึ้งกำจัดบริวารของเทพสำราญที่ไม่ยินยอมพร้อมใจให้มันเป็นผู้นำหน่วยงานฟ้าแทนตน อาศัยเซียวจับอิดนึ้งกำจัดผู้รู้ศักดิ์ศรีที่แท้จริงของมันแทนตน
เลี่ยงเซี้ยเปียะทุ่มเทวิธีการต่างๆ ทำให้เซียวจับอิดนึ้งมีชื่อเสียง มีทรัพย์สินเงินทองมหาศาลจนกระทั่งมีศักดิ์ศรีขึ้นถึงจุดสุดยอด จากนั้นจึงให้เซียวจับอิดนึ้งร่วงหล่นลงมา เพียงเพื่อให้เซียวจับอิดนึ้งมีชีวิตอยู่อย่างปวดร้าว ให้ซิมเปียะกุนสิ้นหวังในตัวของเซียวจับอิดนึ้งและยินยอมหวนกลับไปหามันทั้งกายและใจ
แผนการที่มันทุ่มเททั้งกายใจ ทรัพย์สินเงินทองและชีวิตผู้คนทั้งหมดของมันล้วนเป็นไปเพียงเพื่อกำจัดเซียวจับอิดนึ้งเพียงคนเดียว
เพื่อทำลายเซียวจับอิดนึ้งเพียงคนเดียว
เพื่อทำลายความรัก ความศรัทธาและความเชื่อมั่นที่ซิมเปียะกุนมีต่อเซียวจับอิดนึ้งเพียงประการเดียว
แท้จริงแผนการนี้ ยากนักที่จะมีผู้ใดต้านรับได้
แผนการที่ลึกซึ้งซับซ้อนเยี่ยงนี้ หากมิใช่ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งลึกซึ้งสุดพิสดารเยี่ยงเซียวจับอิดนึ้งแล้วยากนักที่จะสามารถต้านรับได้
หากแผนการของเลี่ยงเซี้ยเปียะสำเร็จ มิเพียงเซียวจับอิดนึ้งจะกลายเป็นคนไร้ค่า เป็นจอมโจรชั่วร้ายตลอดกาลเท่านั้น เลี่ยงเซี้ยเปียะกลับสามารถมีเกียรติภูมิ อำนาจและบารมีในวงบู๊ลิ้มอย่างยากที่จะหาผู้ใดเทียบเทียมได้
เลี่ยงเซี้ยเปียะก็จะเป็นเช่นหยกขาวไร้ตำหนิ มีคุณธรรมไร้ผู้เทียมทาน เป็นวีรบุรุษในวีรบุรุษ เป็นผู้กล้าในผู้กล้าตลอดกาล
หมู่ตึกไร้ตำหนิของมันจะเป็นสัญลักษณ์ของ‘คุณธรรม’ในจิตใจของผู้คน ได้รับการยกย่องจากอนุชนคนรุ่นหลังตราบนานเท่านาน
แต่ชัยชนะที่แท้จริงจะสามารถเกิดขึ้นกับวิญญูชนเยี่ยงเลี่ยงเซี้ยเปียะกระนั้นหรือ?
เลี่ยงเซี้ยเปียะกล่าวยอมรับกับซีทู้ตงเพ้ง
“ซึ่งความจริงแต่ละบุคคล ล้วนมีโฉมหน้าสองประการ มีทั้งด้านดีงามและชั่วร้าย มิฉะนั้นมันไม่เพียงอาจประกอบแผนการใหญ่ กระทั่งคิดมีชีวิตก็ไม่สามารถมีชีวิตสืบต่อ”
ชีวิตด้านหนึ่งของเลี่ยงเซี้ยเปียะย่อมเป็นวิญญูชนไร้ตำหนิผู้มีคุณธรรมไร้เทียมทาน แต่ในอีกด้านหนึ่งใช่สมควรนับเป็นผู้มีพฤติกรรมลึกซึ้งชั่วร้ายยิ่ง เช่นเดียวกับเซียวจับอิดนึ้ง ในคำร่ำลือของผู้คนล้วนบอกมันเป็นโจรชั่วอำมหิต เรื่องราวและพฤติการณ์ชั่วร้ายทั้งมวลล้วนบอกว่าเป็นมันกระทำทั้งสิ้น แท้จริงใครเป็นคนดีงามใครเป็นคนชั่วร้ายนับยากยิ่งที่จะระบุให้แน่ชัด
ยิ่งมิอาจระบุตัดสินแน่ชัดจากคำร่ำลือหรือพฤติการณ์ที่เป็นเปลือกนอกชั่วครั้งชั่วคราว
และยิ่งมิอาจยึดถือจากคำพูดของผู้คน!
ผู้คนที่คิดประกอบแผนการใหญ่เพื่อการมีอำนาจ มีชื่อเสียงเกียรติยศ มีทรัพย์สินเงินทองมหาศาล
และยิ่งมิอาจยึดถือจากวาทกรรมของผู้ยกย่องตนเองเป็นวิญญูชนผู้มีคุณธรรมไร้เทียมทาน!
บุคคลเยี่ยงเซียวจับอิดนึ้ง หากมันเป็นโจรร้ายผู้อื้อฉาวจริงย่อมมิยากต่อการที่จะกำจัด แต่บุคคลชั่วร้ายเยี่ยงเลี่ยงเซี้ยเปียะผู้อ้างตนเป็นวิญญูชนไร้ตำหนิ มีคุณธรรมไร้เทียมทานเล่ามีผู้ใดสามารถกำจัดได้
มิเพียงปล่อยให้บุคคลเยี่ยงมันมีชีวิตอยู่ต่อไปเท่านั้น มิหนำมันยังสามารถเป็นผู้มีคุณธรรมความดีงามที่ได้รับการยกย่องจากผู้คนอีกด้วย
ในวงบู๊ลิ้มโก้วเล้งอาจสามารถพิสูจน์ให้ผู้คนยอมรับ- จอมโจรชั่วร้ายเยี่ยงเซียวจับอิดนึ้งที่แท้อาจเป็นคนดีงาม วิญญูชนไร้ตำหนิเยี่ยงเลี่ยงเซี้ยเปียะที่แท้กลับเป็นคนชั่วร้ายลึกซึ้งยิ่ง แต่ในโลกแห่งความจริงเล่าบุคคลเยี่ยงเซียวจับอิดนึ้งและเลี่ยงเซี้ยเปียะจะมีใครสามารถบ่งบอกได้ว่าผู้ใดเป็นคนดีงามเป็นคนชั่วร้าย
อาจบางที, ทั้งเซียวจับอิดนึ้งและเลี่ยงเซี้ยเปียะล้วนเป็นคนดีงาม
อาจบางที, ทั้งเซียวจับอิดนึ้งและเลี่ยงเซี้ยเปียะล้วนเป็นคนชั่วร้าย
ดีงามหรือชั่วร้ายแท้จริงแล้วใครสามารถตัดสินพิพากษาได้?
น่าเสียดายที่บุคคลในยุคสมัยนี้มักยึดเอาคำร่ำลือและพฤติการณ์เพียงบางด้านที่เป็นเปลือกนอกเป็นเครื่องตัดสินพิพากษาผู้อื่น
ยึดอคติส่วนตนที่ชอบหรือไม่ชอบเป็นเครื่องมือในการตัดสินพิพากษาชีวิตของผู้อื่น
หรือนี่คือโศกนาฏกรรมประการหนึ่งของมนุษยชาติ?!
วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ผู้ใดว่าวีรบุรุษเงียบเหงา วีรบุรุษที่แท้ล้วนสำราญ
“ร่างกายพวกเราแม้สกปรก จิตใจกลับสะอาดสะอ้าน หากแม้นจิตใจคนผู้หนึ่งสกปรกโสมม ต่อให้ใช้สบู่ฟอกวันละสิบครั้ง ยังไม่สะอาดหมดจด” “มีเหตุผล ...
-
“จันทร์กระจ่างสักกี่ครั้ง ชูเมรัยไต่ถามฟ้า ทิพยสถานกลางเวหา ราตรีนี้เป็นปีใด เราคิดเหินลมคืนกลับ แต่กริ่งเกรงเคหาสน์หยกขาว เบื้องบนสะท้...
-
(1) ในบู๊ลิ้มขณะนั้นล้วนร่ำลือถึงบุคคลผู้หนึ่ง ในคำร่ำลือนั้นถึงกับกล่าวว่าคนผู้นั้นนับเป็นจอมโจรชั่วร้ายที่มิอาจมีผู้ใดในยุคนั้นชั่วร้าย...
-
“ร่างกายพวกเราแม้สกปรก จิตใจกลับสะอาดสะอ้าน หากแม้นจิตใจคนผู้หนึ่งสกปรกโสมม ต่อให้ใช้สบู่ฟอกวันละสิบครั้ง ยังไม่สะอาดหมดจด” “มีเหตุผล ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น